Tuesday

เพื่อนที่รักของข้าพเจ้า



  • เราเคยร่วมสุขทุกข์กัน ในวันหนึ่ง คือวันซึ่งฟ้าคล้ำ ดำสลัว
    ที่บางคราวราวพายุ ดุน่ากลัว แต่เป็นชั่วคืนหนึ่ง ซึ่งผ่านไป
    ข้าฯไม่เคยลืมเวลานั้น จนวันนี้ เรามารวมน้องพี่ เหล่าสหาย
    แบ่งชีวิตให้กัน ก่อนจากไกล ไปหนใดอีกไม่รู้ ดูมืดมน

    แต่วันนี้มีสิ่งหนึ่ง ซึ่งอยากบอก ไม่ลวงหลอกนะเพื่อนจ๋า อย่าฉงน
    ขอให้เพื่อนโปรดได้ฟัง อย่างอดทน เพราะเพื่อนคนคนนี้ ไม่มีลวง
    รักสัจจะความจริง ยิ่งชีวิต จะพูดผิดได้อย่างไร เรื่องใหญ่หลวง
    เป็นความจริงจากหัวใจ ลึกในทรวง คือสัจจะโชติช่วง กลางดวงใจ


    หลายปีก่อนตอนที่ข้าฯอยู่ทางเหนือ มีสิ่งหนึ่งที่คลุมเครือ และสงสัย
    ชีวิตเรา มันเกิดขึ้น ได้อย่างไร ก็แล้วใครสร้างโลกนี้ ให้มีมา
    เมื่อผิดพลาดไปมากมาย ในชีวิต ความล้มเหลวธุรกิจ ก็ถามหา
    ทางจิตใจก็ร้าวรอน อ่อนระอา ถึงเวลาที่อ่อนแรง สิ้นกำลัง
    จึงถามว่า “พระเจ้า ไหน” ใครรู้บ้าง ความสว่างอยู่หนไหน ใจยังหวัง
    แล้วคำตอบก็แจ้งใจ เคยได้ฟัง คือพระเจ้าแต่เมื่อครั้ง ข้าฯยังเยาว์
    ทรงเป็นผู้อุทิศตน เพื่อคนทั้งโลก ยอมทนโศกรับทุกข์ อย่างแสนเศร้า
    พระเยซู คริสต์เจ้า ตายแทนเรา แบกรับเอาบาปไว้ บนพระกาย
    ทรงถูกตรึงสิ้นพระชนม์ บนกางเขน แล้วทรงเป็นขึ้นมาใหม่ ไม่สูญหาย
    ทรงพิชิตความบาป และความตาย เสด็จขึ้นเป็นใหญ่ ในจักรวาล
    ‎ ‎
    เมื่อยามเด็กข้าฯเคยฟัง เรื่องพระเจ้า ที่คุณครูเคยเล่า เป็นข่าวสาร
    เคยคิดเอาว่าเป็น เพียงนิทาน ที่เขาเล่ากล่าวขาน แค่ผ่านไป
    แต่เมื่อฟัง เริ่มได้คิด ชีวิตนี้ พระเยซูช่างแสนดี กว่าไหนๆ
    เมื่อพระเจ้าเริ่มเข้า มา ในใจ ก็รับไว้ในชีวิต จิตร้อนรน
    ตัวข้าฯในวัยเด็ก เป็นคนซื่อ อยากยึดถือพระเยซู ดูสักหน
    จึงปรึกษากับใครๆอีกหลายคน ด้วยกังวลว่าคนอื่น ไม่ชื่นชม
    ผลสรุปออกมา ถูกด่ายับ ตัวข้าฯเลยหันกลับ อย่างขื่นขม
    เพราะที่จริงพระเยซู น่าชื่นชม เป็นพระเจ้าของผม อย่างจริงจัง
    ก็เก็บซ่อนพระองค์ไว้ ในใจลึก มิได้นึกเมื่อย้อนไป ในความหลัง
    เมื่อผ่านวัยหยาบกระด้าง ช่างน่าชัง ก็มานั่งทบทวน มองสวนทาง ‎


    ไม่เคยเห็น ก็เหมือนเห็น เช่นลมพัด ปรากฏชัด ในสรรพสิ่ง ที่ทรงสร้าง
    เป็นดังเงา ของสิ่งแท้ที่เลือนลาง เหมือนอยู่ห่าง สุดโลกหล้า ขอบฟ้าไกล
    แต่เมื่อเราเปิดหัวใจ เราให้กว้าง พระองค์ก็เยื้องย่าง เข้ามาใกล้
    เชิญพระเจ้าเข้ามา อยู่ในใจ พระองค์จะสถิตใน ดวงวิญญาณ

    ประสบการณ์ข้าฯได้รับนับแต่นั้น ดั่งของขวัญล้ำค่า มหาศาล
    สันติสุขเปี่ยมล้น เกินประมาณ จนชีวิตทุกด้านได้เปลี่ยนแปลง
    จากชีวิตในที่มืด สู่สว่าง จากหนทางอับจน สู่แจ่มแจ้ง
    จากท้อแท้สิ้นหวัง สู่แข็งแรง จากเหมือนถูกสาปแช่ง สู่อวยพร


    กลับจากเหนือสู่ใต้ ในวันยาก แสนลำบากอีกครั้ง ยังเร่ร่อน
    เหมือนนกผินกลับจาก พเนจร แม้รังนอนก็ไม่รู้ อยู่ที่ใด
    พระองค์นำข้าๆไป ในความทุกข์ แต่กลับสุขสดชื่น ขึ้นมาใหม่
    ครอบครัวเรามีความหวัง กว่าครั้งใด เมื่อหัวใจเปี่ยมท้น ล้นพระคุณ
    บ้านของเราหลังใหม่ มิใช่นี้ มิใช่ที่เสื่อมโทรมหรือสาบสูญ
    ขอเพียงแต่มีความเชื่อทวีคูณ จะสมบูรณ์ตลอดไปในนิรันดร์

    เพื่อนที่รักของข้าฯ อย่าสงสัย พระองค์มอบชีวิตใหม่ ให้แก่ท่าน
    เมื่อท่านเปิดดวงใจ โดยเร็วพลัน และวันนั้นจะรู้จัก อย่างจริงใจ
    มีพระเจ้า มีโลกนี้ มีมนุษย์ เราทุกคนล้วนเป็นบุตรที่ หลงหาย
    พระบิดาไม่อยากให้ ใครต้องตาย หรือสุดท้ายต้องอยู่ใน ประลัยกัลป์

  • หากวันนี้แต่ละคน ค้นพบว่า พระเจ้า ทรงมีเมตตา ต้องกลับหัน‎
    มาคืนดีกับพระเจ้า โดยเร็วพลัน จะเป็นวันชีวิตใหม่ ให้เพื่อนเรา
    ชุมชนใหม่ ในโลกนี้มีอยู่มาก ไม่ลำบาก เพราะรักกันฉันเธอเขา
    ให้อภัยต่อพี่น้อง ผองเพื่อนเรา เป็นสังคมที่บรรเทาความอับจน
    จะเดินต่อด้วยกันไป ในพระเจ้า เพราะพระองค์นำเรา ในทุกหน
    มีสัจจะอยู่ใน ใจทุกคน แสนสุขล้นในวันนี้ หากมีเธอ.‎



    ชีวิต ณ นิรันดร.



  • This page is powered by Blogger. Isn't yours?